สัปดาห์ที่ผ่านมา (6-12 ตุลาคม 2025) เป็นสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยความผันผวนรุนแรงในตลาด CFD ทั่วโลก โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยสำคัญที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ทั้งการปิดรัฐบาลสหรัฐที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 10-12 วัน การเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ที่แสดงถึงความแตกแยกในกรรมการเฟด และการประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนขึ้นเป็น 100% โดย President Trump ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงรุนแรงในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม และคริปโตเคอร์เรนซี่เผชิญกับเหตุการณ์ Flash Crash ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
ตลาดหุ้นสหรัฐประสบกับวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน โดย S&P 500 ปรับตัวลดลง 2.71% ปิดที่ 6,552.51 จุด Nasdaq ร่วงหนัก 3.56% ไปอยู่ที่ 22,204.43 จุด และ Dow Jones ร่วง 878 จุด หรือ 1.90% ในวันเดียว ขณะที่ตลาดคริปโตเผชิญกับเหตุการณ์ Liquidation ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มูลค่า 19.36 พันล้านดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง Bitcoin ดิ่งลงจากระดับสูงสุดที่ $126,000 มาอยู่ที่ $104,500 (ร่วงกว่า $20,000 ในวันเดียว) ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ $111,700 ณ วันที่ 12 ตุลาคม ส่วน Ethereum ร่วงจาก $4,390 ลงไปถึง $3,460 (ลดลง 21%) ก่อนฟื้นตัวมาอยู่ที่ $3,823
ในทางตรงกันข้าม ทองคำกลับแสดงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) ที่ $4,059.05 ในช่วงสัปดาห์ และปิดใกล้ระดับ $4,000 (ประมาณ $3,997.5 ณ วันที่ 11 ตุลาคม) เพิ่มขึ้น 51.13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ 10.56% ในเดือนที่ผ่านมา การแข็งค่าของทองคำได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนในตลาด ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟด และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น
ตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและอุปทานที่เพิ่มขึ้น โดย WTI Crude ลดลง 4.24% มาอยู่ที่ $58.90 ต่อบาร์เรล (ลดลง 22.05% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) และ Brent Crude ลดลง 3.82% มาอยู่ที่ $62.73 ต่อบาร์เรล
ในตลาด Forex เงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดย USD/JPY ปิดที่ 151.18 (-1.23% ในวันที่ 10 ตุลาคม) แม้ว่าเยนจะอ่อนค่าลง 2.68% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ก็แข็งค่าขึ้น 1.40% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว EUR/USD ปรับตัวขึ้น 0.46% มาอยู่ที่ 1.1618 ในวันที่ 10 ตุลาคม โดยยูโรอ่อนค่าลง 0.98% ในเดือนที่ผ่านมา แต่แข็งค่าขึ้น 6.24% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วน GBP/USD ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.01% มาอยู่ที่ 1.3351
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้
สัปดาห์หน้า (13-19 ตุลาคม 2025) นักลงทุนจะต้องติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขสถานการณ์การปิดรัฐบาลสหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก Senate จะกลับมาประชุมอีกครั้งในวันอังคารที่ 14 ตุลาคม หลังจากที่ adjourn ไปเมื่อวันศุกร์ โดยประเด็นหลักที่ทำให้เกิดการปิดรัฐบาลคือการขยายเวลา Affordable Care Act (ACA) health care subsidies ซึ่งพรรคเดโมแครตยืนยันว่าต้องมีการขยายออกไป ขณะที่พรรครีพับลิกันต้องการผ่าน clean continuing resolution ก่อน จากนั้นค่อยเจรจาเรื่องสุขภาพทีหลัง
ความตึงเครียดการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตา โดย Trump ได้ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีน 100% เพิ่มเติม (รวมกับภาษีเดิม 30-40% จะทำให้ภาษีรวมอยู่ที่ประมาณ 130% ขึ้นไป) เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2025 หรือเร็วกว่านั้น พร้อมทั้งควบคุมการส่งออก “critical software” ไปยังจีน การเคลื่อนไหวนี้เป็นการตอบโต้จีนที่ประกาศขยายการควบคุมการส่งออก rare earth minerals ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและป้องกันประเทศของสหรัฐ Trump ยังระบุว่าอาจยกเลิกการพบปะกับประธานาธิบดี Xi Jinping ที่กำหนดไว้ในการประชุม APEC ที่เกาหลีใต้ปลายเดือนนี้ หากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย
นโยบายการเงินของเฟดยังคงเป็นจุดสนใจสำคัญ โดยตลาดคาดการณ์ถึง 94.5% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม FOMC ปลายเดือนตุลาคม นักลงทุนจะต้องติดตามคำกล่าวของ Fed Chair Powell ในวันที่ 14 ตุลาคม เวลา 23:20 น. (GMT+7) อย่างใกล้ชิด รวมถึงคำกล่าวของกรรมการ FOMC คนอื่นๆ ที่จะมีหลายครั้งตลอดสัปดาห์ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐส่วนใหญ่ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากการปิดรัฐบาล รวมถึง Core CPI, Retail Sales, และ PPI ที่ควรจะออกในวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม (แต่มีสถานะเป็น Tentative) หากข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผย จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความคาดหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของเฟดและทิศทางของตลาด
การฟื้นตัวของตลาดคริปโตหลังจาก Flash Crash ที่รุนแรงเป็นอีกประเด็นที่ต้องจับตา โดย Fear & Greed Index อยู่ที่ 24 (Extreme Fear) แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงระมัดระวังอย่างมาก การฟื้นตัวอาจใช้เวลาและค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความตึงเครียดการค้าสหรัฐ-จีนยังคงดำเนินต่อไป
ทองคำยังคงได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น การทดสอบระดับ $4,000 ในสัปดาห์หน้าจะเป็นจุดสังเกตสำคัญว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไปหรือจะเกิดการปรับฐานลงมา
ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ (GMT+7)
วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม:
- US Bank Holiday – ธนาคารสหรัฐปิดทำการ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดอาจต่ำกว่าปกติ
- IMF Meetings (Day 1) – การประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศเริ่มต้น อาจมีการหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากความตึงเครียดการค้า
- Fed Chair Powell Speaks (23:20 น.) – คำกล่าวของประธานเฟดจะให้สัญญาณสำคัญเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต
วันอังคารที่ 14 ตุลาคม:
- UK MPC Member Speaks (หลายคน) – คำกล่าวจากกรรมการธนาคารกลางอังกฤษจะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับนโยบายการเงินของ UK
- German ZEW Economic Sentiment (16:00 น.) [High Impact] – ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี คาดการณ์ที่ 41.7 (ก่อนหน้า 37.3) หากออกมาสูงกว่าคาดจะเป็นบวกต่อยูโร
- IMF Meetings (Day 2)
วันพุธที่ 15 ตุลาคม:
- China CPI y/y (8:30 น.) [High Impact] – เงินเฟ้อจีน คาดการณ์ที่ -0.2% (ก่อนหน้า -0.4%) การฟื้นตัวของเงินเฟ้อจีนจะส่งสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก
- China PPI y/y (8:30 น.) [High Impact] – ดัชนีราคาผู้ผลิตจีน คาดการณ์ที่ -2.3% (ก่อนหน้า -2.9%)
- UK MPC Member Speaks (หลายคน)
- IMF Meetings (Day 3)
วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม:
- UK Employment Change (7:30 น.) [High Impact] – การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานของ UK คาดการณ์ที่ 20.0K (ก่อนหน้า -4.9K) ข้อมูลที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนเงินปอนด์
- UK Unemployment Rate (7:30 น.) [High Impact] – อัตราการว่างงาน UK คาดการณ์คงที่ที่ 4.3%
- UK GDP m/m (13:00 น.) [High Impact] – ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของ UK คาดการณ์ที่ 0.1% (ก่อนหน้า 0.0%)
- US Core PPI m/m, Retail Sales, PPI (Tentative) [High Impact] – ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญหลายตัว แต่อาจถูกเลื่อนเนื่องจากการปิดรัฐบาล หากมีการเผยแพร่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟด
- IMF Meetings (Day 4)
- FOMC Member Speaks (หลายคน)
วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม:
- Eurozone Final CPI y/y (16:00 น.) – เงินเฟ้อขั้นสุดท้ายของยูโรโซน คาดการณ์ที่ 2.3% (ก่อนหน้า 2.3%)
- US Building Permits & Housing Starts (Tentative) – ข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐ หากมีการเผยแพร่จะให้ภาพเศรษฐกิจสหรัฐชัดเจนขึ้น
- IMF Meetings (Day 5)
- FOMC Member Speaks (หลายคน)
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้มีสถานะ “Tentative” เนื่องจากการปิดรัฐบาล นักลงทุนควรติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดว่าข้อมูลเหล่านี้จะถูกเผยแพร่หรือเลื่อนออกไป การเปิดเผยข้อมูลที่ค้างอยู่อาจสร้างความผันผวนอย่างมากในตลาด โดยเฉพาะข้อมูลเงินเฟ้อและค้าปลีกซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟด
