ปัจจัยพื้นฐาน
ดัชนี Nikkei 225 ปิดการซื้อขายที่ระดับ 48,068.35 จุด เพิ่มขึ้น 395.68 จุด หรือ 0.83% ในวันที่ 16 ตุลาคม 2025 แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ต่อเนื่องเป็นวันที่สองติดต่อกัน ท่ามกลางปัจจัยพื้นฐานที่มีทั้งแง่บวกและความท้าทาย ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันตลาดประกอบด้วยความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่ การฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีโดยเฉพาะ SoftBank Group ที่เพิ่มขึ้น 4.8% และ Kioxia Holdings ที่พุ่ง 6.8% ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ หลังจากการถอนตัวของพรรคโกเมโตจากรัฐบาลผสม และการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ที่กำหนดในวันที่ 21 ตุลาคม 2025 ประกอบกับตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่ยังมีสัญญาณผสม โดยอัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือ 2.7% แต่ดัชนี PMI การผลิตยังคงต่ำกว่า 50 ที่ระดับ 48.5 สะท้อนการหดตัวของภาคการผลิตต่อเนื่อง
การวิเคราะห์กราฟ Multi Time Frame
การวิเคราะห์ข้ามหลาก Time Frame แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งในทุกระยะเวลา แต่มีสัญญาณการซื้อมากเกินไปเริ่มปรากฏในหลายกรอบเวลา
- Daily Timeframe: ราคาปิดที่ 48,107.42 จุด โดย RSI อยู่ที่ระดับ 65.27 ซึ่งเข้าใกล้โซน overbought และ MACD ยังคงอยู่ในเทรนด์บวกแรงที่ 1,156.44 จุด แสดงถึง momentum ขาขึ้นที่ยังคงมีความแข็งแกร่ง ราคายังคงซื้อขายเหนือ SMA ทุกระดับอย่างชัดเจน
- H4 Timeframe: ราคาที่ 48,102.07 จุด มี RSI ที่ 62.18 ขณะที่ Stochastic %K อยู่ที่ 37.59 และ %D ที่ 43.58 สะท้อนการปรับตัวลงเล็กน้อยของ momentum ระยะกลาง แต่ยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้
- H1 Timeframe: แสดงสัญญาณการเร่งตัวขึ้นของแรงซื้อ โดย RSI พุ่งขึ้นไปที่ 67.19 และ MACD เป็นบวกที่ 68.75 บ่งบอกถึงการเข้าซื้อที่เข้มข้นในช่วงชั่วโมงล่าสุด
- M30 Timeframe: ปรากฏสัญญาณ overbought อย่างชัดเจน โดย RSI พุ่งขึ้นไปที่ระดับ 73.52 ซึ่งเกินกว่า 70 และ MACD อยู่ที่ระดับสูง 153.09 จุด ขณะที่ Stochastic %K อยู่ที่ 78.84 แสดงถึงการซื้อมากเกินไปในระยะสั้น
- M15 Timeframe: RSI ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 69.22 ใกล้เคียงกับโซน overbought และ MACD ที่ 160.81 ยังคงเป็นบวกแรง แต่อาจเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว
- M5 Timeframe: แสดงการปรับตัวลงเล็กน้อยของ momentum โดย RSI ลดลงมาที่ 59.94 และ MACD ที่ 34.69 สะท้อนการชะลอแรงซื้อในระยะเวลาสั้นที่สุด
แนวรับแนวต้าน
จากการวิเคราะห์ข้ามหลาก Time Frame และการคำนวณระดับราคาสำคัญ สามารถกำหนดโซนแนวรับแนวต้านที่มีความน่าเชื่อถือได้ดังนี้
แนวต้านสำคัญ:
- แนวต้านที่ 1: 48,200-48,300 จุด (แนวต้านระยะสั้นจากการวิเคราะห์ intraday และ psychological resistance)
- แนวต้านที่ 2: 48,500-48,600 จุด (แนวต้านระดับกลางจากการคำนวณ Fibonacci extension และแนวต้านทางจิตวิทยา)
- แนวต้านที่ 3: 49,000-49,100 จุด (แนวต้านหลักระดับ psychological level ที่สำคัญและเป็นเป้าหมายระยะกลาง)
แนวรับสำคัญ:
- แนวรับที่ 1: 47,700-47,800 จุด (แนวรับระยะสั้นจากระดับ support ล่าสุดและแนวรับ intraday)
- แนวรับที่ 2: 47,000-47,100 จุด (แนวรับระดับกลางจากระดับต่ำสุดของวันและ swing low สำคัญ)
- แนวรับที่ 3: 46,200-46,300 จุด (แนวรับหลักที่ตรงกับ SMA 21 Daily และเป็นแนวรับทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง)
โซนแนวรับแนวต้านสำคัญ: ช่วงราคา 46,900-47,200 จุด ถือเป็นโซนวิกฤตที่หากราคาทะลุลงมาจะส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มระยะสั้น ขณะที่โซน 48,400-48,700 จุด เป็นแนวต้านสำคัญที่หากทะลุขึ้นไปได้จะเปิดทางสู่เป้าหมายระดับ 49,000 จุด การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าตลาดยังคงอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น แต่มีความเสี่ยงต่อการ pullback ระยะสั้นเนื่องจากสัญญาณ overbought ในหลาย timeframe