สรุปภาวะตลาด CFD ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาด CFD ทั่วโลกเผชิญกับความผันผวนสูงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับผลกระทบจากสองปัจจัยหลักคือ การปิดรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อเข้าวันที่ 20 ตุลาคม และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่กลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าประทับใจในช่วงท้ายสัปดาห์
ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ
- S&P 500 ปิดที่ระดับ 6,664.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.7% ในรอบสัปดาห์ บันทึกสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นธนาคารและหุ้นเทคโนโลยี
- Nasdaq Composite พุ่งขึ้น 2.1% มาอยู่ที่ระดับ 22,679.97 จุด นำตลาดด้วยแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจจากความก้าวหน้าด้าน AI และความคาดหวังในผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix และ Tesla
- Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 1.6% มาอยู่ที่ระดับ 46,190.61 จุด โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 3 ของธนาคารขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ตลาด Forex
- EUR/USD ปิดที่ระดับ 1.1653 ลดลงเล็กน้อย 0.29% แม้จะได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่า ECB จะหยุดการลดดอกเบี้ย แต่ยังคงได้รับแรงกดดันจากความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐในช่วงกลางสัปดาห์
- GBP/USD ปิดที่ระดับ 1.3431 เพิ่มขึ้นเพียง 0.04% โดยปอนด์ยังคงผันผวนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรและข้อมูลเงินเฟ้อที่ยังสูง
- USD/JPY แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 150.58 โดยเยนอ่อนค่าลง 2.39% ในเดือนตุลาคม สะท้อนถึงความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่าง Fed ที่กำลังผ่อนคลายและ Bank of Japan ที่ยังคงระมัดระวัง
- AUD/USD อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 0.6475 ได้รับแรงกดดันจากข้อมูล GDP จีนที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จากออสเตรเลีย
สินค้าโภคภัณฑ์
- ทองคำ (XAU/USD) ทำสถิติใหม่ด้วยราคา $4,262.31 ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.29% ในวัน และพุ่งสูงถึง 13.75% ในรอบเดือน หรือ 56.62% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยสร้างสถิติราคาสูงสุดใหม่ที่ $4,379.60 แรงหนุนหลักมาจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ การคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของ Fed และการซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก
- เงิน (XAG/USD) ทะลุระดับ $50 เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี ปิดที่ระดับ $52.79 ต่อออนซ์ สูงสุดแตะ $54.47 เพิ่มขึ้นถึง 78% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยแรงหนุนจากการขาดแคลนอุปทานในตลาด London และความต้องการจากอุตสาหกรรม 5G และแบตเตอรี่
- น้ำมันดิบ WTI อ่อนค่าลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ $57.35 ต่อบาร์เรล ลดลง 0.33% ในวัน และ 7.92% ในรอบเดือน จากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจาก OPEC+ และผู้ผลิตนอก OPEC ประกอบกับความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
คริปโตเคอร์เรนซี
- Bitcoin (BTC/USD) ร่วงลง 5% ในเดือนตุลาคมมาอยู่ที่ระดับ $108,082 ซึ่งเป็น Uptober ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 แรงกดดันมาจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมหภาค สภาพคล่องที่อ่อนแอ และการล้างสถานะเลเวอเรจที่มีมูลค่าถึง $1.2 พันล้านดอลลาร์
- Ethereum (ETH/USD) อ่อนค่าลง 14.89% มาอยู่ที่ระดับ $3,988 แม้จะมีการอัปเกรด Fusaka ที่กำหนดในวันที่ 3 ธันวาคม แต่ยังคงได้รับแรงกดดันจากตลาดคริปโตโดยรวมที่อ่อนแอ
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้นักลงทุนต้องจับตามองเหตุการณ์สำคัญหลายประการที่จะกำหนดทิศทางตลาด
ความตึงเครียดการค้าสหรัฐ-จีน
- ประธานาธิบดี Trump ประกาศคุกคามเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 100% เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ตอบโต้มาตรการจำกัดการส่งออกแร่หายาก 12 ชนิดของจีนที่ประกาศเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน
- Trump ได้บรรเทาน้ำเสียงลงในวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยระบุว่าภาษีระดับนี้ไม่ยั่งยืนและกล่าวว่ามันจะเรียบร้อยดีกับจีน แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเจรจา
- การประชุมสุดยอด APEC ที่เกาหลีใต้ปลายเดือนนี้ ประมาณวันที่ 28-30 ตุลาคม ยังคงตามแผนสำหรับการพบปะระหว่าง Trump และ Xi Jinping แม้สถานการณ์จะตึงเครียด
- จีนประกาศเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพอร์ตจากเรือสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ตอบโต้มาตรการของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือจีน
การปิดรัฐบาลสหรัฐฯ
- เข้าสู่วันที่ 20 ของการปิดรัฐบาล หลังจากเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม โดยสภาสูงล้มเหลวในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเป็นครั้งที่ 10 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา
- สภาผู้แทนราษฎรยกเลิกการลงคะแนนเสียงตลอดสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 20-26 ตุลาคม ส่งผลให้พนักงานรัฐบาลกว่า 900,000 คนถูกพักงาน และอีก 700,000 คนต้องทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน
- การปิดรัฐบาลส่งผลกระทบต่อการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะดัชนี CPI ที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม
- ศาลรัฐบาลกลางสั่งห้ามการไล่ออกพนักงานชั่วคราว แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการปิดรัฐบาลได้
การประชุม FOMC (28-29 ตุลาคม)
- ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 bps จากระดับปัจจุบันที่ 4.00-4.25%
- อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเป็น 2.9% จาก 2.7% อาจทำให้ Fed ต้องระมัดระวังมากขึ้นในการผ่อนคลายนโยบาย
- ข้อมูล CPI วันที่ 24 ตุลาคมจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่สุดสำหรับการตัดสินใจของ Fed ในการประชุมครั้งนี้
เศรษฐกิจจีน
- GDP ไตรมาสที่ 3 ขยายตัวเพียง 4.8% เทียบกับ 5.2% ในไตรมาสที่ 2 แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
- ภาวะ deflation ที่ -0.3% ในเดือนกันยายน สะท้อนถึงความอ่อนแอของอุปสงค์ภายในประเทศและแรงกดดันจากภาคอสังหาริมทรัพย์
- ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก และสกุลเงินของประเทศที่พึ่งพาการส่งออกไปยังจีน โดยเฉพาะ AUD ที่อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 0.6475
นโยบายการเงิน ECB
- ธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยประธาน Christine Lagarde ระบุว่าความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อมีความสมดุลมากขึ้น
- ตลาดคาดการณ์ว่า ECB อาจหยุดการลดดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งส่งผลบวกต่อสกุลเงินยูโร
- การปราศรัยของ Lagarde ในวันอังคารที่ 21 ตุลาคมจะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน
ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ (GMT+7)
วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม
- 04:45 น. – CPI นิวซีแลนด์ (q/q) ออกมาที่ 1.0% สูงกว่าคาด 0.8% ส่งผลให้สกุลเงิน NZD แข็งค่าขึ้น แสดงถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่
- 06:01 น. – Rightmove HPI สหราชอาณาจักร (m/m) ออกมาที่ 0.3% สะท้อนภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงฟื้นตัว
- 09:00 น. – ข้อมูลเศรษฐกิจจีนชุดใหญ่ GDP q/y 4.8% vs คาด 4.7%, การผลิตอุตสาหกรรม 6.5%, ยอดขายปลีก 3.0% ส่งผลกระทบต่อ AUD และสินค้าโภคภัณฑ์
- 13:00 น. – German PPI (m/m) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.1% เป็นตัวชี้วัดแรงกดดันเงินเฟ้อต้นทาง
- 15:00 น. – Current Account ยูโรโซน คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 22.5B เทียบกับ 27.7B
- 21:00 น. – CB Leading Index สหรัฐฯ (m/m) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.1%
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม
- 02:00 น. – German Buba President Nagel Speaks อาจให้สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินของ ECB
- 04:45 น. – Trade Balance นิวซีแลนด์ คาดว่าจะขาดดุล -1,185M
- 19:30 น. – CPI แคนาดา (m/m) คาด -0.1% และ Core CPI คาด 0.0% จะกำหนดทิศทางของ CAD
- 19:30 น. – Core Retail Sales แคนาดา (m/m) คาด +1.5%
- 18:00 น. – ECB President Lagarde Speaks จะให้สัญญาณสำคัญเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
วันพุธที่ 22 ตุลาคม
- 13:00 น. – CPI สหราชอาณาจักร (y/y) คาด 4.0% จาก 3.8% แสดงถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงสูง
- 13:00 น. – Core CPI สหราชอาณาจักร (y/y) คาด 3.7% และ RPI คาด 4.7%
- 15:30 น. – HPI สหราชอาณาจักร (y/y) คาด 2.9%
- 19:25 น. – ECB President Lagarde Speaks อาจให้รายละเอียดเพิ่มเติม
- 21:30 น. – Crude Oil Inventories สหรัฐฯ คาด +3.5M บาร์เรล
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม
- 07:30 น. – RBA Bulletin ออสเตรเลีย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับมุมมองของ RBA
- 17:00 น. – CBI Industrial Order Expectations สหราชอาณาจักร คาด -30 เทียบกับ -27
- 19:30 น. – Core Retail Sales แคนาดา (m/m) คาด +1.5% และ Retail Sales คาด +1.0%
- 21:00 น. – Existing Home Sales สหรัฐฯ คาด 4.06M หลัง
วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม (วันสำคัญที่สุด)
- 05:00 น. – Flash Manufacturing PMI ออสเตรเลีย คาด 51.4 และ Flash Services PMI คาด 52.4
- 13:00 น. – Flash Manufacturing PMI สหราชอาณาจักร คาด 46.9 และ Flash Services PMI คาด 51.4
- 14:30 น. – German Flash Manufacturing PMI คาด 49.6 และ Services PMI คาด 51.1
- 15:00 น. – Flash Manufacturing PMI ยูโรโซน คาด 49.9 และ Services PMI คาด 51.4
- 19:30 น. – Core CPI สหรัฐฯ (m/m) คาด 0.3% และ CPI คาด 0.4% ข้อมูลที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์
- 20:45 น. – Flash Manufacturing PMI สหรัฐฯ คาด 51.9 และ Services PMI คาด 53.5
สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการติดตามข้อมูลเชิงลึกและรับการซัพพอร์ตภาษาไทยแบบครบวงจร Taurex พร้อมให้บริการด้วยแพลตฟอร์มที่ทันสมัย ระบบฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย และทีมวิเคราะห์มืออาชีพที่คอยให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง