ปัจจัยพื้นฐาน
ทองคำประสบแรงขายอย่างหนักในช่วงสัปดาห์นี้ หลังจากที่ประธาน Fed Jerome Powell ออกมาส่งสัญญาณเตือนว่าการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม “ไม่ใช่เรื่องแน่นอน” แม้ Fed จะได้ดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.75%-4.00% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่สองในปีนี้ ความไม่แน่นอนดังกล่าวสะท้อนจากการคัดค้านของนโยบายการเงินที่มีความเห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย Governor Miran เรียกร้องให้ลดมากขึ้น ขณะที่ Kansas City Fed President Schmid กลับไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ยเลย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงมีความกังวล สถานการณ์นี้ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าขึ้น 0.63% มาอยู่ที่ระดับ 99.28 และ Treasury Yields ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (10-Year ที่ 4.072%, 2-Year ที่ 3.602%) ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คลี่คลายลง หลังจากประธานาธิบดี Trump ประกาศข้อตกลงการค้ากับเกาหลีใต้และแสดงความมั่นใจต่อการเจรจากับจีน ส่งผลให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ปัจจุบันราคา Spot Gold อยู่ที่ $3,964.39/ออนซ์ (+0.3%) และ Gold Futures ที่ $4,000.70/ออนซ์ (+0.4%) โดยทองคำยังคงทำกำไรสะสม 51% ในปีนี้ แม้จะปรับตัวลงกว่า 3% จากจุดสูงสุดประวัติศาสตร์ที่ $4,381.21 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม
การวิเคราะห์กราฟ Multi Time Frame
การวิเคราะห์ทางเทคนิคในทุก Time Frame แสดงให้เห็นแรงกดดันขาลงที่ชัดเจน โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่โซน 3938-3942 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเส้น Moving Average หลักทั้งหมด สะท้อนถึง Downtrend ที่มีความต่อเนื่อง
- Daily (D1): แนวโน้มขาลงแข็งแกร่ง ราคาอยู่ต่ำกว่า SMA21 (4066), SMA50 (3806), SMA100 (3577) และ SMA200 (3339) อย่างชัดเจน RSI ที่ระดับ 39.49 กำลังเข้าสู่โซน Oversold แสดงแรงขายที่หนัก MACD แสดง Divergence แบบ Bearish ที่ -47.45 และ Stochastic %K อยู่ที่ระดับ 12.93 ยืนยันแรงกดดันขาลงในระยะกลาง
- 4 Hours (H4): แนวโน้มขาลงยังคงครอบงำ ราคาปิดใต้ SMA21 (3991) และ SMA50 (4094) โดย RSI ที่ 40.22 เริ่มเข้าสู่โซน Oversold MACD แสดงสัญญาณ Bearish Momentum ที่ชัดเจนด้วยค่า Histogram ที่ 3.07 การทำ Down Fractal บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการทดสอบแนวรับที่ต่ำลงอีก
- Hourly (H1): แนวโน้มระยะสั้นเป็นขาลง RSI ลดลงมาที่ 34.58 เข้าสู่โซน Oversold MACD เกิด Bearish Crossover พร้อม Histogram ที่ -5.95 แสดง Momentum ขาลง Stochastic %K (30.93) และ %D (23.94) อยู่ในโซน Oversold ส่งสัญญาณว่าอาจมีการ Rebound เล็กน้อยในระยะสั้น
- 30 Minutes (M30): กรอบเวลาระยะสั้นแสดง Consolidation บริเวณโซน 3940-3950 RSI ที่ 40.96 และ Stochastic %K ที่ 40.16 บ่งชี้แรงขายเริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ MACD ยังคงแสดง Bearish Bias
- 15 Minutes (M15): การเคลื่อนไหวระยะสั้นมากแสดง Oversold อย่างชัดเจน RSI ที่ 40.97 และ Stochastic %K ที่ 49.08 กำลังพยายามฟื้นตัวจากโซน Oversold ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของ Short-term Bounce
- 5 Minutes (M5): ในกรอบเวลา Scalping RSI อยู่ที่ 37.51 แสดง Oversold ระยะสั้นมาก Stochastic %K (30.93) เริ่มมีสัญญาณ Bullish Divergence เล็กน้อย บ่งชี้ถึงโอกาสของการพักฐานหรือ Rebound ในระยะสั้นมาก
แนวรับและแนวต้าน
จากการวิเคราะห์ทุก Time Frame และการคำนวณจุดสำคัญทางเทคนิค สามารถสรุปแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้ดังนี้
แนวต้าน (Resistance Levels)
- แนวต้านที่ 1: 3980-4000 เป็นโซนแนวต้านระยะสั้นที่สำคัญ ซึ่งเป็นบริเวณของ SMA21 ใน H4 และเป็นจุดพักตัวระหว่างการปรับฐาน หากราคาสามารถทะลุขึ้นมาได้จะเปิดโอกาสให้เกิด Short-term Rally
- แนวต้านที่ 2: 4040-4060 เป็นโซนแนวต้านสำคัญระดับกลาง ตรงกับ SMA50 ใน Daily และเป็นจุด Supply Zone ที่มีแรงขายคอยรับอยู่ การทะลุโซนนี้จะเป็นสัญญาณเปลี่ยนโครงสร้างเทรนด์ระยะสั้น
- แนวต้านที่ 3: 4100-4120 เป็นแนวต้านหลักระดับ Psychological Level ที่มีความสำคัญสูง ตรงกับ SMA100 Daily และเป็น Major Resistance Zone หากทะลุขึ้นได้จะเปลี่ยนโครงสร้างเทรนด์จาก Bearish เป็น Neutral
แนวรับ (Support Levels)
- แนวรับที่ 1: 3920-3930 เป็นแนวรับใกล้ที่สุด ตรงกับ Recent Low และเป็น Immediate Support Zone การทะลุลงจะเปิดโอกาสให้เกิดแรงขายต่อเนื่อง
- แนวรับที่ 2: 3886-3900 เป็นโซนแนวรับสำคัญระดับกลาง ตรงกับ Swing Low ของวันที่ 28 ตุลาคม และเป็น Demand Zone ที่มีแรงซื้อรอรับอยู่ การรักษาโซนนี้ไว้ได้จะช่วยป้องกันการปรับตัวลงต่อ
- แนวรับที่ 3: 3850-3870 เป็นแนวรับหลักที่แข็งแกร่ง ตรงกับ Major Support Zone และเป็นบริเวณที่มีปริมาณการซื้อขายสูง หากทะลุลงต่ำกว่าโซนนี้จะเปิดโอกาสให้เกิด Extended Downtrend
โซนแนวรับแนวต้านสำคัญ: โซนที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือ 3886-4060 ซึ่งเป็นกรอบของการเคลื่อนไหวหลักในปัจจุบัน การทะลุออกจากกรอบนี้ไปทางใดทางหนึ่งจะบ่งชี้ทิศทางของเทรนด์ถัดไป
หมายเหตุ: บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและมุมมองทางเทคนิคเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการซื้อขาย เทรดเดอร์ควรประเมินความเสี่ยงและใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตนเอง
