ปัจจัยพื้นฐาน
คู่เงิน GBPUSD กำลังเผชิญแรงกดดันขาลงอย่างหนักในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2025 โดยซื้อขายอยู่ในระดับต่ำสุดรอบหลายเดือนที่บริเวณ 1.3050-1.3065 ท่ามกลางปัจจัยลบจากทั้งสองฝ่าย ด้านสหรัฐอเมริกา ดัชนีดอลลาร์ (DXY) แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 100.1-100.2 โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนธันวาคม หลังจากเจ้าหน้าที่ Fed หลายท่านแสดงความกังวลต่อเงินเฟ้อและมีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยรายงาน ADP ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนเพิ่มงาน 42,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 30,000-37,500 ตำแหน่ง นอกจากนี้ อารมณ์ตลาดในช่วงนี้มีแนวโน้มหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (Risk-off) ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าสู่สกุลเงินที่ปลอดภัยอย่างดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่ฝ่ายสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเงินที่หนักหน่วง ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) จะประกาศนโยบายดอกเบี้ยในวันนี้ (6 พฤศจิกายน) เวลาเที่ยงตามเวลาท้องถิ่น โดยตลาดคาดการณ์ว่า BoE จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4% แม้ว่าจะมีโอกาสลดดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 25-30% อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษยังคงสูงกว่าเป้าหมายอย่างมาก โดย CPI อยู่ที่ 3.8% ในเดือนกันยายน ซึ่งเกือบสองเท่าของเป้าหมาย 2% ของ BoE ตลาดแรงงานอังกฤษกำลังอ่อนแอลง โดยอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.8% ในช่วงมิถุนายน-สิงหาคม 2025 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี การเติบโตของค่าจ้างลดลงมาอยู่ที่ 4.7% (ไม่รวมโบนัส) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี และ GDP ของสหราชอาณาจักรเติบโตเพียง 0.3% ใน Q2 2025 ชะลอลงจากการเติบโต 0.7% ใน Q1 นอกจากนี้ รัฐบาลยังเผชิญช่องว่างทางการคลังประมาณ 25-35 พันล้านปอนด์ ซึ่งคาดว่างบประมาณจะมีมาตรการขึ้นภาษีและลดค่าใช้จ่าย อาจกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น
การวิเคราะห์กราฟ Multi Time Frame
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคในหลาย Time Frame โดยใช้ตัวชี้วัด SMA (21, 50, 100, 200), RSI (9), Stochastic (9,5,5) และ MACD (12,26,9) พบว่า:
- Daily (D1): คู่เงิน GBPUSD อยู่ในแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนและแข็งแกร่ง ราคาปิดที่ 1.3063 อยู่ต่ำกว่าเส้น SMA ทุกเส้น (21/50/100/200) ซึ่งเป็นสัญญาณขาลงที่รุนแรง RSI อยู่ที่ระดับ 24.87 และ Stochastic อยู่ที่ 11.95/12.78 ซึ่งทั้งสองตัวชี้วัดอยู่ในโซน Oversold มาก บ่งชี้ว่าราคาถูกขายมากเกินไปและอาจมีการฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น MACD แสดง Negative Divergence ที่แข็งแกร่ง ยืนยันแรงกดดันขาลง
- 4 Hours (H4): แนวโน้มขาลงยังคงครอบงำ ราคาปิดที่ 1.3063 อยู่ต่ำกว่า SMA 21/50/100/200 อย่างต่อเนื่อง RSI อยู่ที่ระดับ 46.95 ซึ่งอยู่ในโซน Neutral แต่มีแนวโน้มลง Stochastic อยู่ที่ 57.38/30.02 กำลังเริ่มขึ้นจากโซน Oversold บ่งชี้ว่าอาจมีการ Rebound ระยะสั้น MACD ยังคงติดลบ แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่ยังไม่อ่อนตัว
- 1 Hour (H1): ราคาปิดที่ 1.30631 กำลังพยายามฟื้นตัวจากระดับต่ำสุด RSI พุ่งขึ้นสู่ระดับ 66.90 เริ่มเข้าสู่โซน Overbought ในระยะสั้น Stochastic อยู่ที่ระดับสูงมาก 91.47/90.92 ซึ่งอยู่ในโซน Overbought บ่งชี้ว่ามีแรงซื้อระยะสั้นเข้ามา แต่ยังไม่เพียงพอที่จะกลับเทรนด์ใหญ่ MACD เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นแต่ยังติดลบอยู่
- 30 Minutes (M30): ราคาอยู่ในภาวะ Consolidation บริเวณ 1.30625 RSI พุ่งขึ้นสู่ 71.97 ซึ่งอยู่ในโซน Overbought อย่างชัดเจน Stochastic อยู่ที่ระดับ 94.52/85.87 ซึ่งสูงมาก บ่งชี้ว่ามีการซื้อคืนระยะสั้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ควรระวังการปรับฐาน MACD เริ่มให้สัญญาณบวก แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ
- 15 Minutes (M15): ราคาแกว่งตัวในกรอบแคบที่ 1.3063 RSI อยู่ที่ 73.93 ซึ่งอยู่ในโซน Overbought Stochastic อยู่ที่ระดับสูงมาก 90.00/92.63 บ่งชี้ว่าตลาดมีแรงซื้อระยะสั้นที่แข็งแกร่ง แต่อาจเผชิญแรงขายทำกำไรได้ MACD ยังคงให้สัญญาณบวกเล็กน้อย
- 5 Minutes (M5): ราคาเคลื่อนไหวแบบ Sideways ที่ระดับ 1.30638 RSI อยู่ที่ 67.36 เข้าใกล้โซน Overbought Stochastic อยู่ที่ 69.77/75.23 ซึ่งอยู่ในโซน Neutral ถึง Overbought เล็กน้อย บ่งชี้ว่าตลาดกำลังรอปัจจัยใหม่เพื่อกำหนดทิศทาง MACD ให้สัญญาณบวกเล็กน้อยแต่อ่อนแอ
แนวรับและแนวต้าน
จากการวิเคราะห์แนวรับและแนวต้านในทุก Time Frame โดยพิจารณาจาก Price Action, Fibonacci Retracement, และ Key Support/Resistance Levels พบว่า:
แนวต้านสำคัญ:
- แนวต้านที่ 1: 1.3085-1.3100 เป็นแนวต้านระยะสั้นที่สำคัญ ซึ่งเป็นระดับที่ราคาทะลุลงมาเมื่อเร็วๆ นี้และกลายเป็นแนวต้านใหม่ หากราคาสามารถทะลุกลับขึ้นไปปิดเหนือระดับนี้ได้ จะเป็นสัญญาณบวกในระยะสั้น
- แนวต้านที่ 2: 1.3150-1.3165 เป็นโซนแนวต้านระยะกลางที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นบริเวณที่มี SMA 21 และ SMA 50 ใน Time Frame H4 และ Daily รวมตัวกัน หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ จะเปิดโอกาสให้ราคาไปทดสอบแนวต้านที่สูงขึ้น
- แนวต้านที่ 3: 1.3220-1.3250 เป็นแนวต้านหลักระยะยาว ซึ่งเป็นบริเวณที่มี SMA 100 และ SMA 200 ใน Daily Time Frame การทะลุระดับนี้จะต้องใช้แรงซื้อที่แข็งแกร่งมาก และจะเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น
แนวรับสำคัญ:
- แนวรับที่ 1: 1.3020-1.3050 เป็นแนวรับระยะสั้นที่สำคัญ ซึ่งเป็นบริเวณที่ราคากำลังพยายามปกป้องในขณะนี้ หากราคาสามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ อาจเห็นการ Rebound ขึ้นไปทดสอบแนวต้านระยะสั้น
- แนวรับที่ 2: 1.2980-1.3000 เป็นโซนแนวรับระยะกลางที่มีความสำคัญทางจิตวิทยามาก โดยเฉพาะระดับ 1.3000 ซึ่งเป็นตัวเลขกลม (Round Number) หากราคาลงมาทดสอบโซนนี้ จะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคา
- แนวรับที่ 3: 1.2895-1.2945 เป็นแนวรับหลักระยะยาวที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในช่วงก่อนหน้านี้ หากราคาลงมาทะลุระดับนี้ได้ จะเปิดโอกาสให้ราคาอ่อนค่าลงต่อไปยังระดับที่ต่ำกว่านี้อีก
โซนแนวรับแนวต้านสำคัญที่สุด: บริเวณ 1.3000-1.3100 เป็นโซนสำคัญที่เทรดเดอร์ควรจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นจุดที่มีการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขายอย่างเข้มข้น การทะลุออกจากโซนนี้ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งจะกำหนดทิศทางระยะกลางของคู่เงินนี้
หมายเหตุ: บทวิเคราะห์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทางการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน เทรดเดอร์ควรศึกษาข้อมูล บริหารความเสี่ยง และตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง