ที่ตั้งและภาษา

Zenfinex Global Limited ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานบริหารงานการเงิน(FSA) ของเซเชลส์ (SD092)

Apple (AAPL) ทะลุจุดสูงสุดตลอดกาล! วิเคราะห์เชิงลึก Multi-Timeframe พร้อมแนวรับแนวต้านสำคัญ

iPhone 17 ขายดีเกินคาด! ผลักดันหุ้นพุ่งสู่ $264 

น Apple Inc. (AAPL) ปิดการซื้อขายที่ระดับ $262.24 ในวันที่ 20 ตุลาคม 2025 เพิ่มขึ้น +3.94% หรือ +$9.95 โดยแตะจุดสูงสุดระหว่างวัน (Intraday High) ที่ $264.38 ซึ่งเป็น All-Time High ใหม่ เหนือกว่าสถิติเดิมที่ $260.10 มูลค่าตลาดปัจจุบันอยู่ที่ $3.89 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้ Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก Nvidia 

 

ปัจจัยพื้นฐานที่ขับเคลื่อนตลาด 

การพุ่งขึ้นของหุ้น Apple ในรอบนี้มาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งหลายประการ โดยเฉพาะยอดขาย iPhone 17 Series ที่เกินคาดการณ์ถึง +14% เมื่อเทียบกับ iPhone 16 ในช่วง 10 วันแรกที่วางขายในสหรัฐอเมริกาและจีน ตามรายงานของ Counterpoint Research ซึ่งในตลาดจีนยอดขายของ iPhone 17 รุ่นพื้นฐานเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว (+31% โดยรวม) ด้วย “คุณค่าต่อเงินที่ดีเยี่ยม” จากการอัปเกรดชิป จอภาพ และกล้องหน้าโดยคงราคาเดิมไว้ ประกอบกับโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษที่ช่วยดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้ Loop Capital ได้อัปเกรดคำแนะนำหุ้นจาก “Hold” เป็น “Buy” พร้อมปรับเป้าหมายราคาเป็น $315 (upside ประมาณ 25%) โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า “เรากำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นของวงจรการใช้งานที่รอคอยมานาน” จากการผสมผสานระหว่างวงจรการรีเฟรชและความต้องการจากรอบการออกแบบใหม่ ขณะที่ธุรกิจ Services ยังคงเติบโตต่อเนื่องด้วยรายได้ $27.42 พันล้านดอลลาร์ (+13.3% YoY) ทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดจีนกับ Huawei ที่กลับมายึดส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่คาดว่าจะส่งผลต้นทุนเพิ่มขึ้น $1.1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2025 และความล่าช้าในการพัฒนา Apple Intelligence เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ในแง่มูลค่าหุ้น P/E Ratio ปัจจุบันอยู่ที่ 36-40 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 22.93 เท่า ประมาณ 53% แสดงให้เห็นว่าหุ้นซื้อขายในระดับที่ “แพง” (Expensive) เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ แต่สะท้อนความคาดหวังการเติบโตในอนาคตจากนักลงทุน 

 

บทวิเคราะห์กราฟ Multi-Timeframe 

จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ Multi-Timeframe โดยใช้ตัวชี้วัดหลัก ได้แก่ SMA (21, 50, 100, 200), RSI (9), Stochastic (9,5,5) และ MACD (12,26,9) พบว่าหุ้น Apple อยู่ในเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่ง (Strong Uptrend) แต่เริ่มเข้าสู่โซน Overbought ในหลายกรอบเวลา โดยสามารถสรุปได้ดังนี้: 

  • Daily (D1): ราคาปิดที่ $262.24 อยู่เหนือ SMA ทั้ง 4 เส้นอย่างชัดเจน (SMA 21: $253.91, SMA 50: $241.73, SMA 100: $224.20, SMA 200: $222.14) แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว RSI อยู่ที่ 69.22 ใกล้โซน Overbought แต่ยังไม่ถึง 70 Stochastic อยู่ในโซน Neutral (%K: 45.86, %D: 30.86) ส่วน MACD แสดงสัญญาณ Bearish Divergence เล็กน้อย (Histogram: -0.69) บ่งชี้ว่าโมเมนตัมอาจชะลอตัวลงในระยะสั้น แต่เทรนด์หลักยังคงเป็นขาขึ้น
  • 4-Hour (H4): เทรนด์ขาขึ้นยังคงชัดเจน โดย RSI อยู่ที่ 73.56 เข้าสู่โซน Overbought แล้ว Stochastic (%K: 80.14) ก็เริ่มเข้าโซน Overbought เช่นกัน ขณะที่ MACD แสดงสัญญาณ Bullish (Histogram: +1.22) บ่งชี้ว่าแรงซื้อยังคงมีอยู่ แต่อาจเกิด Profit Taking ในระยะสั้น
  • 1-Hour (H1): เป็นกรอบเวลาที่แสดงสัญญาณ Overbought มากที่สุด โดย RSI อยู่ที่ 74.52 และ Stochastic อยู่ในระดับสูงมาก (%K: 91.69, %D: 93.56) MACD ยังคงให้สัญญาณ Bullish (Histogram: +1.25) แต่ความเสี่ยงที่จะเกิดการปรับฐานระยะสั้นค่อนข้างสูง
  • 30-Minute (M30): แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น โดย RSI อยู่ที่ 67.14 ใกล้โซน Overbought และ MACD แสดงสัญญาณ Bullish อย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าแรงซื้อยังคงครอบงำในกรอบเวลาสั้น
  • 15-Minute (M15) และ 5-Minute (M5): ทั้งสองกรอบเวลาเริ่มแสดงสัญญาณ Mixed โดยราคาปรับตัวต่ำกว่า SMA 21 และ MACD แสดงสัญญาณ Bearish โดยเฉพาะ M5 ที่ RSI ลดลงมาอยู่ที่ 24.73 ในโซน Oversold บ่งชี้ว่ามีการ Pullback ระยะสั้นเกิดขึ้นหลังจากการพุ่งขึ้นแรง

สรุป: กรอบเวลาใหญ่ (D1, H4) ยืนยันเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่ตัวชี้วัดโมเมนตัมเริ่มแสดงสัญญาณ Overbought โดยเฉพาะใน H4 และ H1 ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานระยะสั้นก่อนจะทำจุดสูงใหม่ได้ ส่วนกรอบเวลาเล็ก (M15, M5) แสดงสัญญาณ Consolidation หรือ Short-term Pullback ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

แนวรับและแนวต้านสำคัญ 

จากการวิเคราะห์แนวรับแนวต้านแบบ Multi-Timeframe โดยใช้ Swing High/Low, Fractal, SMA Levels และ Psychological Levels สามารถระบุโซนราคาสำคัญได้ดังนี้: 

แนวต้าน (Resistance Levels): 

  • R3: $264.38จุดสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ที่เกิดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม 2025 เป็นแนวต้านสำคัญที่สุดในปัจจุบัน หากราคาสามารถทะลุและปิดเหนือระดับนี้ได้ จะเปิดโอกาสให้ไปทดสอบระดับ $265-$270 ในระยะถัดไป
  • R2: $264.00 – $264.20 – Psychological Level และ Resistance Zone ที่เกิดจากการทดสอบหลายครั้งในช่วง Intraday เป็นโซนที่มี Selling Pressure ค่อนข้างสูง
  • R1: $263.50 – $263.80แนวต้านระยะสั้นที่เกิดจากการ Consolidate บนกรอบเวลา H4 และ H1 เป็นโซนที่ราคาอาจเกิด Profit Taking หรือ Resistance ก่อนจะพุ่งไปทดสอบ All-Time High

แนวรับ (Support Levels): 

  • S1: $261.50 – $262.00แนวรับระยะสั้นที่เกิดจากการ Pullback ในกรอบเวลา M30 และ H1 เป็นโซนแรกที่ราคาอาจหา Support หากเกิดการปรับฐาน หากยังรักษาระดับนี้ได้ แนวโน้มขาขึ้นจะยังคงแข็งแกร่ง
  • S2: $260.00 – $260.50 – Psychological Level และ Previous High ที่เคยเป็นจุดต้านก่อนหน้านี้ ขณะนี้กลายเป็นแนวรับสำคัญ พร้อมกับเป็นโซนที่มี Buy Order รอรับอยู่ค่อนข้างหนา
  • S3: $255.50 – $256.00โซนแนวรับหลักที่เกิดจาก SMA 21 บน Daily Chart ($253.91) และเป็นโซน Breakout Point ก่อนหน้าที่ราคาพุ่งขึ้นมาทำ All-Time High หากราคาปรับลงมาทดสอบโซนนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการหา Entry Point สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการ Buy on Dip

โซนวิกฤต (Critical Zones): 

  • Major Resistance Zone: $263.50 – $264.50โซนแนวต้านหลักที่รวม R1, R2 และ R3 เข้าด้วยกัน เป็นโซนที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การทะลุและปิดเหนือโซนนี้จะยืนยันความแข็งแกร่งของเทรนด์ขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • Major Support Zone: $255.00 – $256.00โซนแนวรับหลักที่หากราคาปรับลงมาทดสอบและสามารถรักษาได้ จะเป็นสัญญาณว่าเทรนด์ขาขึ้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่หากทะลุลงมาต่ำกว่า $255 อาจเป็นสัญญาณเตือนให้ระวังการปรับฐานในวงกว้างมากขึ้น

 

สรุปและข้อควรระวัง 

หุ้น Apple ปัจจุบันอยู่ในภาวะ Strong Uptrend ที่ได้แรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะยอดขาย iPhone 17 ที่เกินคาดและการอัปเกรดคำแนะนำจากนักวิเคราะห์หลายราย อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดทางเทคนิคเริ่มแสดงสัญญาณ Overbought ในหลายกรอบเวลา โดยเฉพาะ H4 และ H1 ซึ่งอาจนำไปสู่การ Profit Taking หรือ Short-term Correction ก่อนที่จะมีโอกาสทำจุดสูงใหม่ได้ 

นักลงทุนและเทรดเดอร์ควรติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2025 ในวันที่ 30 ตุลาคม 2025 อย่างใกล้ชิด รวมถึงคำแนะนำ (Guidance) จากฝ่ายบริหารเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจในปี 2026 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาว่าราคาหุ้นที่ระดับปัจจุบัน (P/E 36-40) สามารถรองรับด้วยการเติบโตที่แท้จริงได้หรือไม่ 

สำหรับลูกค้า Taurex: แพลตฟอร์ม MT4/MT5 พร้อมให้บริการเทรด Apple CFD ด้วยสเปรดแข่งขันและเลเวอเรจสูงสุด 1:2000 พร้อมทีมซัพพอร์ตภาษาไทยและระบบฝากถอนผ่านธนาคารไทยแบบไม่มีค่าธรรมเนียม 

 

คำเตือน: บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การเทรด CFD มีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจลงทุน 

ทองคำพักฐาน ห...

สัปดาห์ชี้ชะต...

ทองคำปรับฐานร...

Fed จะตัดสินใ...

Market Insights​

ตุลาคม 30, 2025

ทองคำพักฐา...

ปัจจัยพื้นฐาน ทองคำประสบแ...

Market Insights​

ตุลาคม 27, 2025

สัปดาห์ชี้...

สรุปภาวะตลาด CFD ในรอบสัป...

Market Insights​

ตุลาคม 24, 2025

ทองคำปรับฐ...

ทองคำปรับตัวลงมาอยู่ที่ระ...

Market Insights​

ตุลาคม 23, 2025

Fed จะตัดส...

ภาพรวม  ตลาดการเงินโลกกำล...

Live account Registration

ให้คำปรึกษาการซื้อขาย 1 ชั่วโมง

This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.