ปัจจัยพื้นฐาน
คู่สกุลเงิน AUDUSD ซื้อขายในระดับ 0.6515 ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2025 โดยเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางในระยะข้างหน้า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.60% ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 โดยรายงาน Minutes ที่เผยแพร่เมื่อวันนี้ระบุว่า RBA จะยึดถือข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลักในการตัดสินใจและไม่มีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยในทันที แม้ว่าตลาดจะประเมินโอกาส 50-50 ที่ RBA อาจปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายน หากข้อมูลเงินเฟ้อไตรมาส 3 ที่จะออกมาในช่วงปลายเดือนแสดงสัญญาณชзамедลตัวลง ในด้านเศรษฐกิจมหภาค ข้อมูล GDP ไตรมาส 2/2025 ของออสเตรเลียเติบโต 0.6% QoQ และ 1.8% YoY ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์และเป็นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของครัวเรือนและภาครัฐบาล อย่างไรก็ตาม ความกังวลยังคงมีอยู่ในตลาดแรงงานที่อัตราการว่างงานคงที่ 4.2% แต่การสำรวจของ Roy Morgan ชี้ว่าผู้ว่างงานและทำงานไม่เต็มเวลารวมกันสูงถึง 20.1% ของกำลังแรงงาน สะท้อนความเสี่ยงต่อกำลังซื้อภายในประเทศ
ปัจจัยภายนอกที่สร้างแรงกดดันสำคัญต่อ AUDUSD คือความตึงเครียดการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กลับมาบานปลายอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดี Trump ขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม 100% ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการขยายการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของตลาดสกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี Trump ได้ปรับท่าทีอ่อนลงใน Truth Social โดยระบุว่า “ทุกอย่างจะเรียบร้อย” และแผนการประชุมระหว่าง Trump และ Xi Jinping ในเกาหลีใต้ปลายเดือนตุลาคมยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกหากเกิดข้อตกลงที่ลดความตึงเครียด ในด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของออสเตรเลีย ราคาทองแดงปรับตัวลงมาอยู่ที่ 5.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ ลดลง 0.87% จากแรงกังวลเรื่องสงครามการค้า แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 8.82% ในระยะหนึ่งเดือน ส่วนราคาเหล็กอยู่ที่ 106.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 0.75% ซึ่งช่วยสนับสนุนงานส่งออกภาคโลหะของออสเตรเลีย ความแข็งแกร่งต่อเนื่องของเงินดอลลาร์สหรัฐจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังคงแนวโน้มแข็งแกร่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ AUDUSD อ่อนค่าลงในระยะสั้น
การวิเคราะห์กราฟ Multi Time Frame
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของคู่เงิน AUDUSD ในหลาย Time Frame แสดงให้เห็นภาพแนวโน้มที่สอดคล้องกันในทิศทาง Bearish โดยมีรายละเอียดดังนี้
- Daily (D1): ตัวชี้วัด RSI อยู่ที่ระดับ 37.20 ซึ่งอยู่ในโซน Neutral แต่ใกล้เข้าสู่ภาวะ Oversold แสดงถึงแรงขายที่เข้มข้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ MACD ยังคงอยู่ใต้เส้น Signal แสดงสัญญาณ Bearish ต่อเนื่อง ราคาปัจจุบันซื้อขายใต้ SMA21 (0.6584), SMA50 (0.6554), SMA100 (0.6533) และ SMA200 (0.6424) สะท้อนแนวโน้มขาลงระยะกลางถึงยาว Stochastic %K อยู่ที่ 26.64 และ %D อยู่ที่ 46.92 ยืนยันโมเมนตัมขาลงที่ยังคงครอบงำกรอบเวลานี้
- 4 Hours (H4): ภาพเทคนิคในกรอบเวลา H4 แสดงสัญญาณ Bearish ที่ชัดเจน โดย RSI อยู่ที่ระดับ 39.77 และ MACD ยังคงต่ำกว่าเส้น Signal แม้ว่า Histogram จะเริ่มแคบลงเล็กน้อย ราคาซื้อขายใต้ SMA ทุกเส้น ได้แก่ SMA21 (0.6544), SMA50 (0.6575), SMA100 (0.6581) และ SMA200 (0.6586) Stochastic %K อยู่ที่ 52.24 และ %D อยู่ที่ 45.97 แสดงถึงการฟื้นตัวเล็กน้อยของโมเมนตัมระยะสั้น แต่ยังไม่เพียงพอที่จะกลับทิศเป็น Bullish
- 1 Hour (H1): ในกรอบเวลา H1 ตัวชี้วัด RSI อยู่ที่ระดับ 41.41 และ MACD ยังคงให้สัญญาณ Bearish โดยอยู่ใต้เส้น Signal ราคาซื้อขายใต้ SMA21 (0.6516), SMA50 (0.6522), SMA100 (0.6549) และ SMA200 (0.6576) Stochastic %K ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 20.71 ขณะที่ %D อยู่ที่ 37.70 แสดงว่าโมเมนตัมขาลงยังคงมีความรุนแรงในระยะสั้น
- 30 Minutes (M30): กรอบเวลา M30 แสดง RSI ที่ระดับ 39.75 และ MACD Bearish โดยราคายังคงซื้อขายใต้ SMA ทุกเส้น Stochastic %K อยู่ที่ 32.58 และ %D อยู่ที่ 41.49 สะท้อนแรงกดดันขาลงที่ยังคงมีอยู่ในกรอบเวลาสั้น
- 15 Minutes (M15): ในกรอบเวลา M15 ตัวชี้วัด RSI อยู่ที่ 41.54 และ MACD ยังคงเป็น Bearish ราคาซื้อขายใต้ SMA21 (0.6515), SMA50 (0.6517) และ SMA100 (0.6518) อย่างใกล้ชิด Stochastic %K อยู่ที่ระดับต่ำที่ 19.61 และ %D อยู่ที่ 27.35 แสดงถึงแรงขายที่เข้มข้นในระยะสั้นมาก
- 5 Minutes (M5): กรอบเวลาที่สั้นที่สุดแสดงสัญญาณที่น่าสนใจ โดย RSI อยู่ที่ 42.29 และที่สำคัญคือ MACD เริ่มกลับมาอยู่เหนือเส้น Signal แสดงสัญญาณ Bullish เบื้องต้น Stochastic %K เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60.93 และ %D อยู่ที่ 56.26 สะท้อนโมเมนตัมขาขึ้นระยะสั้นมาก อย่างไรก็ตาม ราคายังคงซื้อขายใต้ SMA21 (0.6512) และ SMA50 (0.6514) ทำให้ยังต้องติดตามว่าสัญญาณนี้จะขยายตัวไปยังกรอบเวลาที่สูงขึ้นหรือไม่
แนวรับแนวต้าน
จากการวิเคราะห์แนวรับแนวต้านจากทุก Time Frame รวมถึงการใช้ Fractal, Swing High/Low, SMA Levels และ Pivot Points ได้ระดับราคาที่สำคัญดังนี้
แนวต้านสำคัญ:
- ระดับ 0.6525 (แนวต้านระยะสั้น): โซนนี้เกิดจากการรวมตัวของ SMA100 บนกรอบเวลา Daily และ Pivot Resistance จากการคำนวณ Pivot Points ซึ่งเป็นแนวต้านแรกที่ราคาจะต้องเผชิญหากเกิดการฟื้นตัว การทะลุผ่านโซนนี้จะเป็นสัญญาณเชิงบวกเบื้องต้น
- ระดับ 0.6552 (แนวต้านหลักระดับแรก): นี่คือโซนแนวต้านที่มีความสำคัญสูงสุด เนื่องจากเป็นการรวมตัวของ SMA50 บนกรอบเวลา Daily, Pivot Resistance และ Fractal จากกรอบเวลา H4 ซึ่งมีความหนาแน่นของแนวต้าน (Strength) สูงถึง 9 จากการวิเคราะห์ การทะลุผ่านโซนนี้จะเปลี่ยนโครงสร้างเทคนิคระยะสั้นเป็นขาขึ้นได้
- ระดับ 0.6570 (แนวต้านหลักระดับสอง): โซนนี้เกิดจาก SMA21 บนกรอบเวลา Daily, Pivot Resistance และ Fractal จาก H4 มีความแข็งแกร่ง (Strength) สูงถึง 9 เช่นกัน เป็นแนวต้านสำคัญที่หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ จะเปิดโอกาสให้ราคาทดสอบโซนสูงขึ้นในระดับ 0.6580-0.6600 ซึ่งเป็นบริเวณ Pivot Point และ Monthly High Zone
แนวรับสำคัญ:
- ระดับ 0.6493 (แนวรับระยะสั้น): เป็นแนวรับแรกที่เกิดจาก Pivot Support ซึ่งหากราคาปรับฐานลงมา โซนนี้จะเป็นจุดแรกที่อาจได้รับแรงซื้อเข้ามารองรับ
- ระดับ 0.6472 (แนวรับหลักระดับแรก): โซนนี้เกิดจากการรวมตัวของ Pivot Support และ Swing Low จากหลาย Time Frame เป็นแนวรับที่มีความสำคัญและควรติดตามอย่างใกล้ชิด การลดลงทะลุโซนนี้จะเปิดโอกาสให้ราคาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
- ระดับ 0.6452 (แนวรับหลักระยะยาว): นี่คือโซนแนวรับที่มีความสำคัญสูงสุดในระยะปัจจุบัน เนื่องจากเป็น Pivot Support ที่อยู่ใกล้กับ Monthly Low ที่ระดับ 0.6470 หากราคาทะลุลงต่ำกว่าโซนนี้ จะเปิดโอกาสให้เกิดแรงขายเพิ่มเติมไปยังระดับที่ต่ำกว่า 0.6400
โซนสำคัญที่ต้องจับตา:
ควรให้ความสำคัญกับโซนแนวต้านวิกฤตที่ระดับ 0.6580-0.6600 ซึ่งเป็นบริเวณ Pivot Point และ Monthly High Zone หากราคาสามารถฟื้นตัวทะลุผ่านโซนนี้ได้ จะเปลี่ยนโครงสร้างเทคนิคเป็นขาขึ้นในระยะกลาง ในทางกลับกัน โซนแนวรับวิกฤตที่ระดับ 0.6450-0.6470 ซึ่งเป็นบริเวณ Monthly Low และ Strong Support Zone หากราคาทะลุลงต่ำกว่าโซนนี้ จะสร้างแรงกดดันขาลงที่รุนแรงขึ้นและอาจนำไปสู่การทดสอบระดับราคาที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ผู้เทรดควรติดตามข่าวสารจาก RBA Minutes ที่เผยแพร่ในวันนี้ การประชุม RBA ในเดือนพฤศจิกายน และพัฒนาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้จะมีผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางของคู่เงิน AUDUSD ในระยะข้างหน้า
