ที่ตั้งและภาษา

Zenfinex Global Limited ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานบริหารงานการเงิน(FSA) ของเซเชลส์ (SD092)

วิกฤต Government Shutdown: โอกาสหรืออุปสรรคสำหรับเทรดเดอร์ CFD ในช่วงความไม่แน่นอนของตลาด

สถานการณ์การปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2025 กำลังสร้างผลกระทบที่น่าสนใจต่อตลาดการเงินโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญถูกเลื่อนการเผยแพร่ออกไป สาเหตุหลักของการปิดทำการครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายระยะสั่นของรัฐบาลได้

ผลกระทบที่สำคัญที่สุดคือการเลื่อนการเผยแพร่รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกันยายนที่กำหนดไว้วันที่ 15 ตุลาคม และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ที่ควรเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม รายงานทั้งสองชิ้นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งกำหนดประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ตุลาคม และตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 basis points

ความล่าช้าในการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญนี้สร้างสภาวะ “การบินโดยไม่มีข้อมูล” (Flying Blind) ให้กับนักลงทุนและผู้กำหนดนโยบาย ส่งผลให้ความไม่แน่นอนในตลาดเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าการปิดทำการของรัฐบาลมักมีผลกระทบจำกัดต่อตลาดการเงินในระยะยาว โดยเฉพาะหากสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว ในการปิดทำการครั้งก่อนหน้าปี 2013 ที่ยาวนาน 16 วัน รายงานเศรษฐกิจถูกเลื่อนออกไปประมาณสองสัปดาห์หลังจากรัฐบาลกลับมาทำงานปกติ

สิ่งที่แตกต่างจากครั้งก่อนคือภัยคุกคามของการเลิกจ้างพนักงานรัฐบาลกลางอย่างถาวร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานที่กำลังแสดงสัญญาณอ่อนแอลง โดยข้อมูลจาก ADP ในเดือนกันยายนแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนลดจำนวนพนักงาน 32,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบสองปีครึ่ง

ผลกระทบต่อตลาดการเงิน

ตลาด Forex (สกุลเงิน)

  • USD อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง – ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงประมาณ 10% ตั้งแต่ต้นปี 2025 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 ความไม่แน่นอนจากการปิดทำการรัฐบาลและแรงกดดันจากภาวะการคลังที่อ่อนแอเป็นปัจจัยหลัก นักวิเคราะห์คาดว่าหาก Fed ดำเนินนโยบายลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในเดือนตุลาคม แรงกดดันต่อดอลลาร์อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น
  • EUR/USD และ GBP/USD แข็งค่า – คู่สกุลเงิน EUR/USD แข็งค่าไปที่ระดับ 1.1750 ขณะที่ GBP/USD เคลื่อนตัวเข้าใกล้ 1.3480 จากการไหลของเงินทุนออกจากสินทรัพย์สหรัฐฯ ไปยังสกุลเงินที่ปลอดภัยกว่า นักลงทุนควรติดตามแนวรับสำคัญของดอลลาร์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินโอกาสในการเทรด
  • Safe-Haven Currencies ได้รับแรงหนุน – เยน (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF) ซึ่งเป็นสกุลเงินที่มักได้รับการยกย่องในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ควรพิจารณากลยุทธ์ Long บนสกุลเงินเหล่านี้ในช่วงที่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่

ตลาดทองคำ (XAUUSD)

  • ทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง – ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปที่ระดับ 3,890-3,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 45% ตั้งแต่ต้นปี 2025 การปิดทำการของรัฐบาล ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed เป็นปัจจัยหลักที่หนุนราคาทองคำ
  • ความต้องการจากนักลงทุนและธนาคารกลางเพิ่มสูง – Goldman Sachs ระบุว่าทองคำเป็น “สินค้าโภคภัณฑ์ที่น่าสนใจที่สุด” และแนะนำให้นักลงทุนจัดสรรพอร์ตโฟลิโอในระดับ mid-single-digit เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนทางการเมืองและเศรษฐกิจ ธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเพิ่มสำรองทองคำอย่างต่อเนื่อง
  • เงิน (Silver) ปรับตัวขึ้นแรงกว่า – ราคาเงินเพิ่มขึ้นมากกว่า 59% ตั้งแต่ต้นปี ซื้อขายที่ระดับเกือบ 48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงให้เห็นถึงความต้องการโลหะมีค่าในวงกว้างจากความไม่แน่นอนของตลาด

ตลาดดัชนีหุ้นสหรัฐฯ (US Indices)

  • S&P 500 และ Dow Jones ทำสถิติสูงสุดใหม่ – แม้จะเผชิญกับการปิดทำการของรัฐบาล ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,711.20 จุด เพิ่มขึ้น 14% ตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ Dow Jones อยู่ที่ 46,758.28 จุด เพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่ต้นปี นักลงทุนมองข้ามความไม่แน่นอนทางการเมืองและมุ่งเน้นไปที่ผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่งและความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed
  • Nasdaq นำตลาดด้วย AI Rally – ดัชนี Nasdaq Composite ปิดที่ 22,755.16 จุด ได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น Nvidia และ AMD ข่าวการระดมทุนของ OpenAI ที่มูลค่า 500 พันล้านดอลลาร์ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในภาคเทคโนโลยี
  • ประวัติศาสตร์แสดงความยืดหยุ่นของตลาดหุ้น – ข้อมูลในอดีตชี้ให้เห็นว่าดัชนี S&P 500 มักปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1-3% ในช่วงหนึ่งถึงสามเดือนหลังการปิดทำการสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากการปิดทำการยาวนานเกินกว่าที่คาดการณ์

ตลาดน้ำมันสหรัฐฯ (US Oil)

  • ความไม่แน่นอนด้านอุปทานและอุปสงค์ – แม้ว่าการปิดทำการของรัฐบาลจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตน้ำมัน แต่การเลื่อนเผยแพร่รายงานสต็อกน้ำมันจาก Energy Information Administration (EIA) อาจสร้างความไม่แน่นอนในระยะสั้น นักเทรดควรติดตามข้อมูลทางเลือกจากแหล่งภาคเอกชนเช่น American Petroleum Institute (API)
  • ผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากร – การประกาศภาษีศุลกากรใหม่ของประธานาธิบดี Trump ที่ 10% สำหรับสินค้าไม้และ 25% สำหรับเฟอร์นิเจอร์อาจส่งสัญญาณถึงการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการพลังงานในภาคการผลิต
  • ความสัมพันธ์กับดอลลาร์อ่อนค่า – การอ่อนค่าของดอลลาร์มักส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันดิบเนื่องจากทำให้น้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่น เทรดเดอร์ควรติดตามความสัมพันธ์ผกผันระหว่าง USD และราคาน้ำมัน

ตลาด Cryptocurrencies

  • Bitcoin ทะลุระดับ 120,000 ดอลลาร์ – Bitcoin เพิ่มขึ้น 29% ตั้งแต่ต้นปี 2025 ซื้อขายใกล้ระดับ 120,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ จากการไหลของเงินทุนออกจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิมของสหรัฐฯ ไปยังสินทรัพย์ทางเลือก ช่วงเดือนตุลาคมในอดีตมักเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับ Bitcoin ซึ่งนักลงทุนเรียกว่า “Uptober”
  • ความไม่แน่นอนหนุนอุปสงค์สินทรัพย์ดิจิทัล – การขาดข้อมูลเศรษฐกิจที่เชื่อถือได้และความกังวลเกี่ยวกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมผลักดันให้นักลงทุนหันมาสนใจคริปโทเคอเรนซี่มากขึ้นในฐานะเครื่องมือกระจายความเสี่ยง นักวิเคราะห์แนะนำให้ติดตามระดับแนวรับสำคัญและบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดเนื่องจากความผันผวนสูง
  • Altcoins ได้รับแรงหนุนตาม – สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ เช่น Ethereum และ Altcoins หลักๆ ก็ปรับตัวขึ้นตามโมเมนตัมของ Bitcoin แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่กว้างขึ้นในตลาดคริปโทโดยรวม

บทสรุป

การปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ครั้งนี้นำมาซึ่งทั้งโอกาสและความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์ CFD ในทุกระดับ ความไม่แน่นอนจากการขาดข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเคลื่อนไหวของราคาที่ผันผวน โดยเฉพาะในตลาดสกุลเงินและโลหะมีค่า

เทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการใช้ Stop Loss ที่เหมาะสมและการจำกัดขนาดของตำแหน่ง เนื่องจากความผันผวนอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหันจากข่าวการเมืองหรือการประกาศนโยบายของ Fed การติดตามแหล่งข้อมูลทางเลือกจากภาคเอกชน เช่น ADP Employment Report และ ISM PMI จะช่วยให้เทรดเดอร์มีมุมมองที่ดีขึ้นในช่วงที่ข้อมูลราชการถูกเลื่อนออกไป

โอกาสสำคัญในขณะนี้อยู่ที่การเทรดตามแนวโน้มหลัก ได้แก่ ความอ่อนแอต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐฯ การแข็งค่าของทองคำและโลหะมีค่า และความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการพลิกกลับอย่างรวดเร็วหากมีความคืบหน้าในการเจรจาทางการเมืองหรือการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่คาดไม่ถึง

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ช่วงเวลานี้เหมาะสำหรับการเรียนรู้และฝึกฝนด้วยบัญชีเดโม่หรือการเทรดด้วยขนาดตำแหน่งที่เล็ก ขณะที่เทรดเดอร์มืออาชีพสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนเพื่อสร้างกำไรในระยะสั้น แต่ต้องไม่ลืมว่าสถานการณ์ทางการเมืองสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และการมีแผนการเทรดที่ชัดเจนพร้อมกลยุทธ์การออกจากตำแหน่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้

NASDAQ 100 ณ ...

AUDUSD ภายใต้...

สงครามการค้าส...

วิเคราะห์ตลาด...

Market Insights​

ตุลาคม 15, 2025

NASDAQ 100...

ปัจจัยพื้นฐานขับเคลื่อนตล...

Market Insights​

ตุลาคม 14, 2025

AUDUSD ภาย...

ปัจจัยพื้นฐาน คู่สกุลเงิน...

Market Insights​

ตุลาคม 14, 2025

สงครามการค...

ภาพรวมสถานการณ์  ความตึงเ...

Market Insights​

ตุลาคม 13, 2025

วิเคราะห์ต...

สัปดาห์ที่ผ่านมา (6-12 ตุ...

Live account Registration

ให้คำปรึกษาการซื้อขาย 1 ชั่วโมง

This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.